5 ข้อควรรู้เพื่อเซฟตี้เมื่อต้องทำงานร่วมกับสารเคมีอันตราย

อุปกรณ์ PPE อุปกรณ์ เซฟตี้ อุปกรณ์ safety

หนึ่งในสถานที่ทำงานที่อันตรายที่สุด คือ การทำงานร่วมกับสารเคมีอันตรายหลากหลายชนิด ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานในปัจจุบันมีความเสี่ยงสูง เพราะหลายๆ สถานที่ต้องมีการทำงานร่วมกับสารเคมีและเครื่องจักรขนาดใหญ่ จุดที่ไม่สามารถใช้งานเครื่องจักรได้ก็ต้องใช้คนเพื่อเข้าไปทำงานหรือควบคุมแทน ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเพื่อเซฟชีวิตคนทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เรื่องของการให้ความรู้คนทำงานและอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ทางบริษัทหรือโรงงานไม่ควรพลาด รวมไปถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยหลากหลายชนิดต้องมีการตรวจสอบอยู่เสมอ ซึ่งถ้าต้องทำงานร่วมกับสารเคมีอันตราย ต้องอ่าน 5 ข้อควรรู้เพื่อเซฟตี้เมื่อต้องทำงานร่วมกับสารเคมีอันตราย คือ

1.การขนส่ง เคลื่อนย้าย และรักษาต้องดี
สารเคมีที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ มักจะเป็นสารเคมีอันตรายและใช้ในปริมาณสูง จึงต้องมีการขนย้ายที่ถูกต้อง จุดนี้ทางผู้ประกอบการจะต้องมีตัวช่วยเคลื่อนย้ายที่ได้มาตรฐาน พร้อมเก็บรักษาไว้ภายในบรรจุภัณฑ์ที่มิดชิดและเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อสารเคมีชนิดนั้นๆ พร้อมติดป้ายให้พนักงานที่มาขนย้ายได้รู้ว่าสารเคมีที่กำลังเคลื่อนย้ายนี้มีอันตรายมากขนาดไหนและควรปฏิบัติตัวอย่างไรในขณะขนย้าย

2.ต้องมีจุดเซฟตี้ให้คนทำงาน
สำหรับคนที่ต้องทำงานภายในพื้นที่มีสารเคมีเป็นจำนวนมาก ทางบริษัทควรมีจุดเซฟตี้สำหรับคนทำงานโดยเฉพาะ จุดเซฟตี้นี้คือจุดที่มีฝักบัวล้างตัว, อ่างล้างหน้า และที่ล้างตา รวมไปถึงจุดทำความสะอาดชุดเซฟตี้ก่อนออกจากจุดที่ทำงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและผู้ทำงานจะไม่มีสารเคมีติดตัวออกมาด้วย นอกจากนี้ยังควรเตรียมสถานที่เพื่อให้พนักงานได้ออกมาหายใจรับอากาศบริสุทธิ์หรือได้ออกมาทำภารกิจส่วนตัวอย่างปลอดภัย

3.สถานที่ทำงานต้องมีความปลอดภัย
สถานที่ทำงานจะต้องมีความปลอดภัย ต้องรักษาความสะอาดและจัดการพื้นที่ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะในแบบที่กฎหมายกำหนด มีจุดระบายอากาศที่เหมาะสมและมีออกซิเจนภายในพื้นที่ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 18 พร้อมระบบป้องกันและกำจัดสารเคมีที่มีคุณภาพ เช่น ระบบระบายอากาศเฉพาะจุด, ระบบชำระล้าง และระบบปิดคลุม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของสารเคมี

4.อุปกรณ์เซฟตี้ต้องครบ
อุปกรณ์เซฟตี้ของคนทำงานต้องครบทุกส่วน ห้ามขาดแม้แต่ส่วนเดียวเพื่อความปลอดภัยของคนทำงาน เช่น รองเท้าเซฟตี้, รองเท้ากันลื่น, ถุงมือ ppe, หน้ากากกันสารพิษ, หมวกนิรภัย, ชุดป้องกันสารเคมี, แว่นตา หรือหมวกครอบแบบมีหน้ากากเพื่อป้องกันสารเคมี เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยทำให้การทำงานมีความมั่นใจมากขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเรื่องสารเคมีซึมเข้าสู่ร่างกาย จนอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคตได้เป็นอย่างดี

 

5.เมื่อเกิดเหตุต้องออกจากที่ทำงานทันที
เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นจนทำให้สารเคมีรั่วไหล ควรหยุดการทำงานและออกจากจุดนั้นทันที เพื่อลดความเสี่ยงต่อการรับสารเคมีเกินขนาดและลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุร้ายแรงต่างๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ควรชะล่าใจเพราะต่อให้สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้อยู่แต่ถ้าต้องเผชิญกับสารเคมีจำนวนมากก็ไม่สามารถป้องกันได้เต็ม 100 เช่นกัน
การทำงานในจุดที่มีสารเคมีเป็นจำนวนมากหรือเป็นจุดที่ต้องทำงานปะปนกับสารเคมีอันตรายเป็นเวลานาน ควรจะต้องมีแผนรับมือในเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ ส่วนคนทำงานก็ต้องมีอุปกรณ์เซฟตี้ที่ได้คุณภาพมาสวมใส่เพื่อป้องกันสารเคมีซึมเข้าสู่ร่างกายหรือทำให้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำและอ่านป้ายเตือนต่างๆ ให้ดี เพื่อทำให้การทำงานในทุกๆ วันมีความมั่นใจ ส่วนผู้ประกอบการเองก็ควรใส่ใจต่อสถานที่ทำงานและติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยให้ครบครัน มีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้กับพนักงาน และมีการตรวจสอบเครื่องมือกับเครื่องจักรที่ใช้อยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดในอนาคตนั่นเอง

Line
Messenger
Phone
Messenger
Line
Phone