การเลือกชุด PPE สำหรับการปฏิบัติงานท่ามกลางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอันตราย นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ทั้งต่อตัวผู้ปฏิบัติงานที่ต้องเข้าไปเสี่ยงและบริษัทที่ต้องรับผิดชอบชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานทุกคน โดยเฉพาะในงานที่ต้องพบกับสารเคมีอันตราย ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้กับหลายส่วนของร่างกาย ทั้งผิวหนัง ดวงตา ไปจนถึงระบบทางเดินหายใจ ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคมีนั่นเอง
ฉะนั้นเพื่อการความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน การเลือกชุดป้องกันสารเคมีในระดับ (Level) ที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ที่ต้องพิจารณา ว่าแต่ชุดป้องกันสารเคมีนั้นมีกี่ระดับ แต่ละระดับสามารถให้การป้องกันได้ดีมากน้อยแค่ไหน มาหาคำตอบได้ในบทความนี้
อุปกรณ์ชุด PPE หรือ Personal Protective Equipment นั้นอาจเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วไปคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ซึ่งประกอบไปด้วยอุปกรณ์ป้องกันตั้งแต่หัวจรดเท้า อาทิ หมวกนิรภัย แว่นตา หน้ากาก ชุดป้องกันลำตัว และรองเท้านิรภัย เป็นต้น
สำหรับชุดป้องกันสารเคมี เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเภทของชุด PPE โดยบางองค์กรอาจเรียกว่าชุด CPC หรือ Chemical Protective Clothing คือการสวมใส่อุปกรณ์ PPE เพื่อจุดประสงค์ในการป้องกันสารเคมีโดยเฉพาะ โดยองค์กร OSHA ได้นิยามไว้ว่าชุดป้องกันสารเคมีเป็นอุปกรณ์ที่ “ป้องกันหรือแยกบุคคลจากอันตรายทางเคมี กายภาพ และชีวภาพที่อาจพบในระหว่างการดำเนินการปฏิบัติงาน” นั่นเอง
ชุดป้องกันสารเคมีจะถูกแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ โดยพิจารณาจากความสามารถในการป้องกันสารเคมี ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ ระดับ A, B, C และ D (จากระดับสูงสุดไปจนถึงต่ำสุด) ตามข้อกำหนดของสำนักบริหารการป้องกันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสหรัฐฯ (EPA) ของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ระดับของชุดป้องกันสารเคมีจะถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเข้าทำงาน แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากความเข้มข้นหรือความอันตรายของสารเคมีเพิ่มขึ้น-ลดลง โดยรายละเอียดของชุดป้องกันสารเคมีแต่ละระดับมีดังนี้
ชุดป้องกันระดับ A (Level A)
ชุดป้องกันระดับ A เป็นชุดที่ให้การป้องกันในระดับสูงที่สุด โดยป้องกันระบบทางเดินหายใจในระดับสูงสุด ไปจนถึงดวงตาและผิวหนังทุกส่วนของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งประกอบไปด้วยอุปกรณ์ PPE ที่ให้การป้องกันที่สูงอย่างมาก ได้แก่
โดยชุดป้องกันระดับ A นั้นใช้ป้องกันแก๊สพิษ และสารเคมีที่อันตราย เป็นชุดชนิดที่อากาศผ่านไม่ได้ ต้องใช้ร่วมกับเครื่องช่วยหายใจที่กล่าวไปข้างต้น จึงเหมาะกับสถานการณ์ที่พบกับมีสารเคมีอันตรายสูง ไม่ว่าจะเป็นชนิดแก๊สหรือของเหลว อยู่ในสถานที่ปิดหรือพื้นที่อับอากาศ หรือการผจญสารเคมีที่ไม่สามารถระบุชนิดได้
ชุดป้องกันระดับ B ให้การป้องกันรองลงมาจากระดับ A และใช้เป็นป้องกันสารเคมีที่เป็นของเหลวเป็นหลัก ไม่สามารถป้องกันก๊าซเคมีได้ แต่ก็ให้การป้องกันทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วยอุปกรณ์ PPE ที่มีมาตรฐาน ดังนี้
ชุดป้องกันสารเคมีระดับ B นั้นจะให้การป้องกันสารเคมีเหลวเป็นหลัก ในพื้นที่ที่ระบุชนิดของสารเคมีได้และไม่ใช่การสัมผัสไอสาร แต่ไม่ต้องการการปกป้องผิวหนังในระดับสูงมากนัก และยังมีเครื่องช่วยหายใจที่สามารถป้องกันก๊าซอันตรายได้เช่นกัน
ในพื้นที่การปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงระดับกลาง-ต่ำ ผู้ปฏิบัติงานภาคสนามมักเลือกสวมใส่ชุดป้องกันสารเคมีระดับ C ซึ่งสามารถพบเห็นได้ตามโรงงานอุตสาหกรรมหารผลิตทั่วไป เรียกได้ว่าชุดป้องกันสารเคมี Level C คือชุดที่ถูกใช้งานมากที่สุด เนื่องจากให้ความป้องกันได้ในระดับที่เหมาะสมและสามารถเคลื่อนไหว ทำงานได้สะดวกและคล่องแคล่ว โดยชุดป้องกันสารเคมีระดับ C มีอุปกรณ์สำคัญดังนี้
อย่างที่กล่าวไป ชุดป้องกันระดับ C เหมาะอย่างมากเมื่อต้องพบกับการสัมผัสกับสารเคมีที่ไม่มีผลกระทบต่อผิวหนัง ที่ได้มีการระบุและพิสูจน์ลักษณะของสารอันตรายแล้วว่าไม่อันตรายต่อบุคคล โดยจะเน้นไปที่การป้องกันการกระเซ็นของสารเคมีเหลวเป็นหลัก (สารเคมีที่ไม่มีผลกระทบต่อผิวหนัง) แต่ไม่สามารถป้องกันสารเคมีที่เป็นไอหรือก๊าซมากเท่ากับระดับ A หรือ B
มาถึงในส่วนของชุดป้องกันระดับ D ที่เมื่อเทียบกับระดับอื่นๆ จะให้การป้องกันที่น้อยกว่า แต่ก็จะมีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานที่มากกว่าเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีจำนวนอุปกรณ์ที่ค่อนข้างน้อย จึงสามารถสวมใส่และถอดออกได้รวดเร็ว โดยมีอุปกรณ์ได้แก่
อุปกรณ์เสริม สามารถเลือกสวมใส่หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสม ได้แก่
เมื่อในพื้นที่ปฏิบัติงานได้มีการระบุชนิดและลักษณะของสารเคมีอันตรายเอาไว้ว่า มีความอันตราย อาทิ การกระเซ็น การรั่วไหล หรือมีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อระบบหายใจอยู่ในระดับที่ต่ำและได้มีการป้องกันเอาไว้แล้ว ก็สามารถสวมใส่ชุดระดับ D ได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่แนะนำให้ใช้งานในการตอบโต้เหตุฉุกเฉินสารเคมี (Emergency Response) เพราะการป้องกันไม่มากพอนั่นเอง
ทั้งนี้เป็น 4 ระดับของชุดป้องกันสารเคมีที่สำคัญและความทำการศึกษาเอาไว้อย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ถูกตามแต่ละพื้นที่และสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป นอกเหนือจากนี้ ควรคำนึงถึงมาตรฐานของชุด PPE ด้วยว่าตรงตามหลักเกณฑ์ระดับสากลที่เป็นที่ยอมรับหรือเปล่า เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน
พวกเรา Safety Genius คือ ผู้เชี่ยวชาญและหนึ่งในผู้นำธุรกิจอุปกรณ์ PPE และอุปกรณ์เซฟตี้แบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 30 ปี พร้อมจัดจำหน่ายอุปกรณ์ PPE อย่างครบครันทั้งแต่หัวจรดเท้า ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ และยังมีบริการให้คำปรึกษา เพื่อให้คุณมั่นใจถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และมาตรฐานเป็นอันดับหนึ่ง
หากสนใจสั่งซื้ออุปกรณ์ PPE สามารถสอบถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามรายละเอียดด้านล่าง
ติดต่อเรา
อีเมล: safetygenius99@gmail.com
โทร.: 085-414-5551
LINE OA: @safetygenius