เปลี่ยนงานอันตรายให้เป็นงานปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ PPE เหล่านี้

เปลี่ยนงานอันตรายให้เป็นงานปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ PPE เหล่านี้

เปลี่ยนงานอันตรายให้เป็นงานปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ PPE เหล่านี้

ในการปฏิบัติงานตามพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่ก่อสร้าง การทำงานในที่สูง หรือแม้กระทั่งสถานที่ที่ปนเปื้อนสารเคมีหรือเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งหมดล้วนต้องมีการวางมาตรการความปลอดภัยที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมไปถึงการสวมใส่อุปกรณ์ PPE หรือ Personal Protection Equipment อย่างถูกต้อง เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุและป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียระหว่างปฏิบัติงาน

อุปกรณ์ PPE ประเภทไหนควรใช้กับงานอะไร?

หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีว่า อุปกรณ์ PPE นั้นมีหลากหลายรูปแบบ โดยอาจเป็นอุปกรณ์แบบครบเซ็ตตั้งแต่หัวจรดเท้า หรือเป็นเพียงการสวมใส่อุปกรณ์บางอย่าง ขึ้นอยู่กับสถานที่ปฏิบัติงาน สภาพแวดล้อม และปัจจัยความเสี่ยงที่มี ด้วยสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้อาจทำให้หลายคนเกิดความสับสนหรือลังเลว่าควรเลือกใช้อุปกรณ์เซฟตี้แบบไหนในสถานการณ์อะไรบ้าง

Safety Genius จึงขอมาแนะนำอุปกรณ์ PPE รูปแบบต่าง ๆ ว่าเหมาะสมกับงานประเภทใด เพื่อให้ทุกคนเลือกใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ (Head Protection Equipment)

เปลี่ยนงานอันตรายให้เป็นงานปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ PPE เหล่านี้

เมื่อกล่าวถึงอุปกรณ์ PPE สำหรับศีรษะ ก็คงหนีไม่พ้น หมวกนิรภัย ที่เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนมากมักผลิตขึ้นจากพลาสติกแข็งพอลิโพรไพลีน มีหลายสี เช่น เหลือง แดง ส้ม ขาว ฟ้า เทา และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือโรงงานต้องสวมใส่ แต่หมวกเซฟตี้ไม่ได้ทำจากพลาสติกเพียงอย่างเดียว โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่

  • หมวกนิรภัยประเภท A – คือหมวกแข็งที่ผลิตมาจากพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส สามารถใช้ในการทำงานทั่วไปได้ เช่น งานก่อสร้าง งานในคลังสินค้า งานในโรงงานผลิต เป็นต้น
  • หมวกนิรภัยประเภท B – เป็นหมวกนิรภัยที่ทำมาจากพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาสเช่นเดียวกับประเภทแรก ถูกใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าแรงสูงโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้านั่นเอง เป็นประเภทหมวกที่ช่างไฟฟ้าใช้งานกัน
  • หมวกนิรภัยประเภท C – หมวกนิรภัยชนิดนี้ทำมาจากโลหะ ซึ่งเหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน สามารถป้องกันแรงกระแทกได้มากกว่าพลาสติกหรือไฟเบอร์ แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า เพราะไม่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ เหมาะสำหรับงานขุดเจาะน้ำมัน หรืองานเชื่อมต่าง ๆ
  • หมวกนิรภัยประเภท D – ประเภทสุดท้ายนี้ทำมาจากพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาสเช่นกัน แต่ผ่านกระบวนการผลิตและทดสอบให้เหมาะกับใช้ในการดับเพลิง ทนความร้อนสูง ป้องกันรังสีความร้อน ต้านการลุกไหม้ และบางรุ่นอาจมีกระบังหน้าหรือผ้าปิดบริเวณต้นคอให้ด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันศีรษะที่นี่

 

อุปกรณ์ป้องกันดวงตา (Eye Protection Equipment)

ขณะปฏิบัติงาน อาจมีอันตรายต่อดวงตาที่เกิดจากสารเคมี สะเก็ดไฟ ละอองฝุ่น หรือเศษวัสดุต่าง ๆ ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันดวงตาอย่าง แว่นตานิรภัย สามารถช่วยป้องกันอันตรายเหล่านี้ได้ โดยส่วนใหญ่เป็นแว่นที่มีเลนส์สีใส ครอบทั้งดวงตา มีรูระบายอากาศด้านข้าง ในบางรุ่นอาจมีสารเคลือบเลนส์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ใช้ได้ในงานหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานเจียระไน งานสกัดหรือกระแทกวัตถุ งานทดลองเคมี เป็นต้น

ในงานเชื่อม-ตัดโลหะ ที่ผู้ปฏิบัติงานต้องเจอกับแสงสว่างจากเครื่องเชื่อมอาร์กอน ควรต้องใช้งานแว่นตาเชื่อมที่มีความสามารถในการตัดแสงสว่าง นอกจากนี้ยังมี แว่นตากันแสงเลเซอร์ที่แพทย์ใช้งานเพื่อรักษาดวงตา หรือในการทำหัตถการอย่าง IPL หรือ เลเซอร์ ND Yag ด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันดวงตาที่นี่

 

อุปกรณ์ป้องกันหู (Hearing Protection Equipment)

การได้ยินเสียงดังจากเครื่องจักรหรือการอยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงดังเป็นเวลานาน ๆ นั้นเป็นอันตรายต่อเยื่อแก้วหูและกระดูกหู โดยอุปกรณ์ป้องกันหูนั้นแบ่งได้เป็น 2 ชนิดดังนี้

1.Ear Plug – คือจุกยางขนาดเล็กสำหรับอุดหู อาจทำมาจากยาง ไฟเบอร์กลาส โฟม หรือขี้ผึ้ง ช่วยป้องกันเสียงได้ประมาณ 20 – 30 เดซิเบล สวมใส่ง่ายและไม่อึดอัด แต่ในบางคนอาจมีอาการระคายเคืองได้

เปลี่ยนงานอันตรายให้เป็นงานปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ PPE เหล่านี้

2.Ear Muff – เป็นอุปกรณ์ที่คล้ายกับหูฟังครอบแบบไร้สาย โดยบริเวณที่ครอบหูจะมีวัสดุป้องกันเสียงอยู่ แล้วบุทับด้วยโฟม พลาสติก หรือยาง เพื่อใช้เป็นตัวดูดซับเสียงอีกชั้นหนึ่ง สามารถลดความดังของเสียงได้สูงสุด 30 – 40 เดซิเบล อีกทั้งบางรุ่นยังมีเครื่องสื่อสารในตัว เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงาน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันหูที่นี่

 

อุปกรณ์ป้องกันมือและเท้า (Hand and Foot Protection)

ถุงมือและรองเท้านิรภัยถือเป็นอุปกรณ์เซฟตี้พื้นฐานที่มักถูกมองข้าม เพราะหลายคนมักจะให้ความสนใจไปที่อุปกรณ์ PPE ส่วนอื่น ๆ มากกว่า หรือบางคนอาจไม่ชอบเพราะทำให้หยิบจับหรือเดินได้ไม่ถนัด ไม่เหมือนกับการใช้มือเปล่าหรือสวมใส่รองเท้าที่ใส่อยู่เป็นประจำ แต่ต้องขอย้ำว่าอุปกรณ์ป้องกันมือและเท้าสามารถให้การป้องกันที่มากกว่า จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง

โดยถุงมือและรองเท้านิรภัยนั้นมีหลายชนิดเพื่อป้องกันอันตรายที่ต่างกันไป เช่น ถุงมือกันสารเคมี ถุงป้องกันของเหลวติดเชื้อ ถุงมือป้องกันความร้อน-เย็น รองเท้านิรภัย รองเท้าป้องกันกระแสไฟฟ้าแรงสูง เป็นต้น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันมือที่นี่ อุปกรณ์ป้องกันเท้าที่นี่

 

อุปกรณ์ป้องกันลำตัว (Body Protection Equipment)

อุปกรณ์ป้องกันลำตัวหรือชุด PPE มีหลายประเภท เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่อาจจะคุ้นเคยกับชุด PPE ที่แพทย์และพยาบาลสวมใส่เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นชุดป้องกันสารเคมีนั่นเอง นอกจากการป้องกันสารเคมีแล้ว ยังมีชุด PPE สำหรับป้องกันความร้อนที่ทำจากอลูมิไนซ์หรือผ้า Sateen สามารถสะท้อนความร้อนจากภายนอกได้ จึงเหมาะสำหรับใช้งานหน้าเตาหลอมและเตาเผา และชุด PPE อีกหนึ่งรูปแบบคือ ชุดป้องกันความเย็นที่มีไว้สำหรับใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวจัด หรือภายในสถานที่อย่างห้องแช่แข็งนั่นเอง

 

อุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจ (Respiratory Protection Equipment)

อุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจอย่าง หน้ากาก คงเป็นอุปกรณ์ที่ผู้คนทุกวันนี้คุ้นเคยกันดี เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสและฝุ่นควัน PM 2.5 ทำให้ทุกคนต้องหันมาใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตัวเอง โดยหน้ากากอย่าง N95 สามารถป้องกันอนุภาคฝุ่นควันและละอองได้ในระดับหนึ่ง

เปลี่ยนงานอันตรายให้เป็นงานปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ PPE เหล่านี้

สำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีฝุ่นควัน ฟูมโลหะ รวมไปถึงไอระเหยจากสารเคมีและก๊าซ ควรที่จะใช้งานหน้ากากนิรภัยที่สามารถเปลี่ยนตลับไส้กรองได้ถึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันมากกว่า หรืออาจเป็นหน้ากากชนิดสายส่งอากาศ ที่มีลักษณะเป็นพลาสติกหรือยางคลุมทั้งศีรษะ มีการส่งออกซิเจนผ่านสายที่เชื่อมกับหน้ากาก จึงป้องกันแก๊สพิษ ไอระเหย อนุภาคของฝุ่น ฟูมโลหะ และละอองพิษได้ดี เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่มีออกซิเจนน้อยหรือเต็มไปด้วยฝุ่นหรือสารพิษ ช่วยให้ผู้สวมใส่หายใจได้สะดวกและดำเนินงานได้ยาวนานขึ้น

จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้น อุปกรณ์ PPE นั้นมีหลากหลายรูปแบบซึ่งแต่ละชนิดก็มีความสำคัญและความสามารถในการป้องกันที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สารเคมี ไฟฟ้า ความร้อน หรืออุบัติเหตุที่ผู้ปฏิบัติงานต้องพบเจอ ดังนั้นก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์ PPE ออนไลน์จะต้องพิจารณาปัจจัยในการทำงานอย่างรอบคอบ เพื่อซื้ออุปกรณ์ PPE ที่เหมาะสมกับเนื้องานและสามารถให้การป้องกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

เกี่ยวกับ Safety Genius

พวกเรา Safety Genius คือ ผู้เชี่ยวชาญและหนึ่งในผู้นำธุรกิจอุปกรณ์ PPE และอุปกรณ์เซฟตี้แบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 30 ปี เราได้จำหน่ายอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมหลากหลายชนิด รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล คอยให้การดูแลกับโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนำต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

เราให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้ใช้งานเป็นหลัก พร้อมคัดสรรสินค้าคุณภาพจากทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกท่าน และให้คำปรึกษาด้วยความรู้ความเข้าใจอันเป็นเลิศ มั่นใจได้ว่าสินค้า PPE ของเรามีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล

ติดต่อเรา

อีเมล: safetygenius99@gmail.com

โทร.: 085-414-5551

LINE OA: @safetygenius

Line
Messenger
Phone
Messenger
Line
Phone